เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ขึ้นเวทีเสวนา ‘กีฬาไทยจะไปทางไหนดี?’ ในงาน SPLASH - Soft Power Forum 2025 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยประกาศเดินหน้ายกระดับกีฬาไทยจากระดับรากหญ้าสู่ความเป็นสากล ผ่านแผน Roadmap “กีฬา = Soft Power = เศรษฐกิจ” ที่เน้นการบูรณาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา โภชนาการ และโครงสร้างพื้นฐาน ร่วมกับการพัฒนาเศรษฐกิจการกีฬา (Sport Economy) และซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อผลักดันศักยภาพนักกีฬาไทยในเวทีโลก
เวทีเสวนาในครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีนักกีฬาชื่อดัง ‘บัวขาว บัญชาเมฆ’ นักมวยไทยระดับตำนาน และ ‘เทนนิส–พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ’ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย เข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ร่วมกับนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ทำหน้าที่ดำเนินรายการ

ชู ‘กีฬา = Soft Power’ ปลุกเศรษฐกิจใหม่จากรากสู่โลก
เศรษฐา เผยด้วยว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับกีฬาในฐานะ Soft Power โดยจะสร้างรากฐานอย่างจริงจังตั้งแต่ระดับครอบครัว โรงเรียน ไปจนถึงสถาบันกีฬา พร้อมสนับสนุนวิทยาศาสตร์การกีฬาและการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาในทุกมิติ เพื่อให้กีฬาไทยเป็นมากกว่าการแข่งขัน แต่กลายเป็นกลไกทางเศรษฐกิจของประเทศ
“มวยไทยเป็น Soft Power ที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งของไทย และบัวขาวคือตัวอย่างคนไทยที่ทำให้มวยไทยไปไกลทั่วโลก… เราต้องมีระบบสนับสนุนที่ชัดเจน ทั้งด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา โภชนาการ สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์ เพื่อให้นักกีฬาไทยมีอาชีพที่มั่นคง”
— เศรษฐา กล่าว
หนุนกีฬาไทยสร้างรายได้จริง เชื่อม Sport Economy ธุรกิจ การท่องเที่ยว
อดีตนายกฯ เศรษฐา ชี้ว่า เศรษฐกิจกีฬาเป็นโอกาสที่ไทยยังมีศักยภาพมหาศาล โดยเฉพาะในกีฬาที่ไทยมีจุดแข็ง เช่น มวยไทย ซึ่งสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจได้หลากหลาย ทั้งโรงยิม ค่ายฝึก นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาฝึกซ้อม เกิดการจับจ่ายในท้องถิ่น เป็นห่วงโซ่เศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีคุณค่าและยั่งยืน
“เราต้องมองกีฬาในมิติเชิงเศรษฐกิจด้วย เช่น บัวขาวสามารถต่อยอดจากนักกีฬาไปเปิดค่ายมวย รับนักเรียนจากต่างชาติ ทำให้เกิดการจ้างงาน โรงแรม ร้านอาหารรอบๆ เติบโตตาม”
— เศรษฐา กล่าว
เศรษฐา ยังเสนอให้ภาครัฐสนับสนุนเอกชนที่ลงทุนในกีฬาด้วยมาตรการภาษี เช่น กรณีของ ‘บ้านทองหยอด’ ที่สนับสนุนแบดมินตันไทย จนสร้างนักกีฬาระดับโลกหลายคน

‘เทนนิส’ ชูโมเดลสมาคมกีฬา สนับสนุนครบวงจรตั้งแต่โภชนาการถึงจิตวิทยา
ด้าน ‘น้องเทนนิส - พาณิภัค’ เผยว่า ตนโชคดีที่สมาคมเทควันโดให้การดูแลรอบด้าน ตั้งแต่อาหาร โค้ช นักจิตวิทยา ไปจนถึงการเรียน ทำให้สามารถโฟกัสที่การพัฒนาฝีมือได้เต็มที่ พร้อมทั้งฝากให้รัฐบาลสนับสนุนระบบโค้ชและโภชนาการสำหรับนักกีฬารุ่นใหม่
“หนูฝันอยากสร้างนักกีฬาหนึ่งคน ที่เก่งกว่าหนูให้ได้ หนูอยากส่งต่อประสบการณ์ทั้งหมด ให้เขาไปไกลกว่าที่หนูเคยเป็น”
— พาณิภัค กล่าว
‘บัวขาว’ ห่วงเด็กไทยหลุดจากวงการมวยไทย
ขณะที่ ‘บัวขาว’ ย้ำว่า ถึงเวลาที่ภาครัฐต้องส่งเสริมมวยไทยในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมควบคู่กับอาชีพ เพราะปัจจุบันกลับเห็นเด็กต่างชาติสนใจมวยไทยมากกว่าเด็กไทยเอง พร้อมเสนอให้รัฐบาลสนับสนุนเวทีการแสดง แม่ไม้มวยไทยในรูปแบบใหม่ เช่น การแสดงร่วมกับดนตรีหรือศิลปินสมัยใหม่ ซึ่งได้ผลตอบรับดีในเวทีต่างประเทศ
“มวยไทยไม่ใช่แค่กีฬา มันคือศิลปะ คือ Soft Power ชั้นดี ที่สามารถส่งออกไปสู่สายตาชาวโลก ถ้าเราไม่ลงมือทำ วันนี้ เด็กไทยจะไม่เหลือเวทีอีกต่อไป”
— บัวขาว กล่าว

ดัน ‘ศิลปินแห่งชาติด้านกีฬา’ เสนอเพิ่มเกียรติศักดิ์ให้นักกีฬาไทย
อดีตนายกฯ เศรษฐา ยังทิ้งท้ายด้วยข้อเสนอสำคัญให้กระทรวงวัฒนธรรมพิจารณามอบเกียรติ ‘ศิลปินแห่งชาติด้านกีฬา’ เพื่อยกระดับศักดิ์ศรีและสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ โดยยกตัวอย่างบัวขาวและพาณิภัคว่า สมควรได้รับเกียรตินี้ไม่ต่างจากศิลปินอื่น ๆ เพราะได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในเวทีโลก
“ศิลปินแห่งชาติวันนี้ยังไม่มีด้านกีฬาเลย ทั้งที่นักกีฬาบางคนสร้างชื่อเสียงระดับโลก เป็น Soft Power ที่แท้จริง น่าจะถึงเวลาที่เราควรมอบเกียรตินี้ให้พวกเขา”
— เศรษฐา กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลประกาศวางโรดแมปพัฒนากีฬาไทยแบบครบวงจรจากรากสู่โลก โดยเชื่อม Soft Power เข้ากับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หนุนวิทยาศาสตร์การกีฬา โภชนาการ สิทธิประโยชน์ และการสร้างแรงบันดาลใจจากฮีโร่นักกีฬาไทย ขณะเดียวกันยังเสนอแนวคิดใหม่ เช่น ‘ศิลปินแห่งชาติด้านกีฬา’ และการสร้างระบบ Sport Economy เพื่อยกระดับกีฬาไทยอย่างยั่งยืนในเวทีโลก