มงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.ดาโอ(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยในวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น รับแรงซื้อจากนักลงทุนที่กลับเข้าตลาด แม้จะมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นเป็นระยะ
แรงหนุนหลักมาจากกระแสเงินทุนที่ไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเชีย และการเริ่มเข้าสู่ช่วงการรายงานงบไตรมาส 2/2568 โดยคาดว่าจะมีแรงเก็งกำไรเพิ่มขึ้นในหุ้นรายตัว ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด หลังรัฐบาลไทยส่งข้อเสนอเพิ่มเติมให้ทางสหรัฐฯ พิจารณา คาดว่าจะทราบผลภายในสัปดาห์นี้
จับตาภาษีสหรัฐฯ–เงินเฟ้อ–ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศยังเป็นประเด็นกดดันตลาด หลังอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศทยอยเก็บภาษีศุลกากรกับหลายประเทศ อาทิ แคนาดา (35%), เม็กซิโก (30%), สหภาพยุโรป (30%) และเตรียมเจรจากับอินเดีย ซึ่งคาดว่าจะถูกเก็บภาษีไม่เกิน 20%
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังขู่จะใช้ 'ภาษีทุติยภูมิ' (secondary tariffs) กับประเทศที่ค้าขายกับรัสเซีย หากไม่มีข้อตกลงหยุดยิงภายใน 50 วัน โดยอาจกระทบต่อจีนและอินเดีย ซึ่งมีการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ข่าวดังกล่าวกดดันราคาน้ำมันดิบเช้านี้ โดย Brent ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 69 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
วันนี้ตลาดยังรอตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ CPI และ PPI ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 2.6% และ 2.5% ตามลำดับ จากผลของมาตรการภาษีที่ผ่านมา และจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ปลายเดือนนี้
การเมืองในประเทศและผู้ว่า ธปท. คนใหม่
ในประเทศ จับตาผลการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ คาดว่ากระทรวงการคลังจะเสนอชื่อ “นายวิทัย รัตนากร” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ แทน “นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ที่จะครบวาระในเดือนกันยายนนี้ โดย กนง. จะมีการประชุมอีก 3 ครั้งในปีนี้ (ส.ค., 8 ต.ค., 17 ธ.ค.) ซึ่งคาดว่ามีโอกาสลดดอกเบี้ยมากที่สุด 1–2 ครั้ง
ด้านการเมือง นายกรัฐมนตรีอยู่ในช่วงสุดท้ายของกำหนดเวลาส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคลิปเสียงที่เกี่ยวข้องกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหากมีการขอขยายเวลา อาจส่งผลให้การวินิจฉัยของศาลล่าช้า และกลายเป็นปัจจัยลบต่อความเชื่อมั่นของตลาด
คาดกำไรงบ 2Q ต่ำกว่าปีก่อน – ธนาคารทยอยประกาศ
วันนี้ TISCO จะเริ่มรายงานงบการเงินไตรมาส 2/2568 ซึ่งนับเป็นการเข้าสู่ช่วงเก็งกำไรผลประกอบการอย่างเป็นทางการ โดยบล.ดาโอฯ ประเมินกำไรสุทธิของตลาดรวมจะอยู่ที่ 2.1–2.3 แสนล้านบาท ต่ำกว่าระดับไตรมาสแรกที่ 2.82 แสนล้านบาท
เฉพาะกลุ่มธนาคาร ซึ่งรายงานผลเป็นกลุ่มแรก คาดว่ากำไรจะอยู่ที่ 53,000 ล้านบาท ลดลง 2% YoY และ 10% QoQ โดย Bloomberg Survey คาดการณ์ในทิศทางเดียวกัน หุ้นธนาคารมีแนวโน้มแข็งแรงจากปัจจัยบวกด้านการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล
กลยุทธ์การลงทุน
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการกลับเข้ามาซื้อหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ราคาย่อตัวแรงก่อนหน้า บล.ดาโอฯ แนะนำกลยุทธ์ “เล่นสั้น – หุ้นลงลึก – หุ้นปันผลสูง” พร้อมทยอยสะสมหุ้นใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง
หุ้นเด่น Defensive และ Domestic Play:
• กลุ่มค้าปลีก – CPALL
• กลุ่มสื่อสาร – ADVANC
• กลุ่มโรงพยาบาล – BDMS
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น:
OSP, STA*, JMT*, PRM
หุ้นในพอร์ตแนะนำวันนี้:
COM7*(10%), SCC(10%), CRC(10%), MTC*(10%), TTB(10%), SCB(10%)
(ถอด TOP ออกจากพอร์ต)
หุ้นเด่นทางเทคนิค:
HANA, BKA