กสทช.ล้มโครงการเน็ตชายขอบ 2.4 พันล้าน เหตุใช้งบผิดวัตถุประสงค์
กรรมการกสทช.ลงมติ 4 : 3 ล้มโครงการเน็ตชายขอบและพื้นที่ห่างไกล ขอขยายอายุ 9 เดือน มูลค่า 2.4 พันล้าน เหตุใช้เงินกองทุนผิดประเภท ชี้ควรประเมินผลการใช้งานก่อนต่ออายุ
การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พิจารณา เรื่อง งานบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ส่วนขยายบริการต่อเนื่อง การให้บริการโครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและปรับปรุงอุปกรณ์การให้บริการ ภายใต้โครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ (โซน C+) และ โครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (โซน C ) ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาภายในสิ้นปีนี้ โดยจะขอขยายระยะเวลาออกไปอีก 9 เดือน งบประมาณ 2,400 ล้านบาท
ที่ประชุมไม่สามารถหาข้อยุติได้ จึงใช้วิธีโหวต โดยมีผลเป็นมติ ไม่เห็นชอบ 4: 3 โดยกรรมการที่ไม่เห็นชอบ 4 คน ประกอบด้วย พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ, นางสาวพิรงรอง รามสูต, นายศุภัช ศุภชลาศัย และนายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ส่วนกรรมการที่เห็นชอบ 3 คน ประกอบด้วย นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกสทช.,นายต่อพงศ์ เสลานนท์,พลตำรวจเอก ณัฐธร เพราะสุนทร
สำหรับเหตุผลที่กรรมการมีมติโหวตคว่ำโครงการดังกล่าว เนื่องจาก งบประมาณ 2,400 ล้านบาท สำนักงานกสทช.ขอใช้งบจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ กทปส. หรือ ยูโซ่ บัญชีที่ 1 งบประมาณที่สำรองไว้สำหรับใช้โครงการอื่นๆนอกเหนือจากโครงการเดิมที่กำหนด ไม่สอดคล้องกับการใช้งบประมาณของกองทุนตามแผนยูโซ่ ที่สำคัญสำนักงานกสทช.ไม่ได้มีการประเมินผลการดำเนินงานว่ามีพื้นที่ไหนที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบ้าง แต่เป็นการเหมารวมต่ออายุให้ทุกหมู่บ้าน จึงไม่สอดคล้องกับสภาพปัจจุบันซึ่งในบางพื้นที่อาจไม่มีการใช้งานแล้ว


