กสทช.เตือนกล้องไวไฟ ต้องมี SDoC ป้องกันรบกวนมือถือ

21 ต.ค. 2568 - 08:45

  • ส.อ.ท. และ ธปท. จับมือแก้บาทแข็ง-ภาษีสหรัฐฯ เพื่อส่งออกไทย

  • คลอดสินเชื่อพิเศษช่วย SME ทั้งดอกเบี้ยต่ำแบบมีเป้าหมาย จัดตั้งกองทุน SME เสริมสภาพคล่อง ปรับโครงสร้างหนี้

  • ดันอุตสาหกรรมยุคใหม่ เปลี่ยนการผลิตจาก OEM เป็น ODM/OBM เน้นใช้เทคโนโลยีดิจิทัล/AI และพัฒนาแรงงานทักษะสูง เพื่อแข่งขันระยะยาว

กสทช.เตือนกล้องไวไฟ ต้องมี SDoC ป้องกันรบกวนมือถือ

ส.อ.ท.-ธปท. ผนึกกำลัง! รับมือเศรษฐกิจไทย “บาทแข็ง-ภาษีสหรัฐฯ-ธุรกิจขาดสภาพคล่อง”

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จับมือกันอย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ ท่ามกลางความท้าทายหลายด้าน ทั้งเงินบาทที่แข็งค่า ภาษีนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา และปัญหาหนี้-สภาพคล่องของภาคธุรกิจ

การหารือครั้งสำคัญนี้นำโดย เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. และ วิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธปท. โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อเชื่อมโยงนโยบายการเงินและการคลังให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และหาแนวทางเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย

ความท้าทายรอบด้านที่ต้องเผชิญ

เกรียงไกร เธียรนุกุล ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับหลายปัญหาหลักที่ต้องเร่งแก้ไข
• เงินบาทแข็งค่า: ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออก ทำให้ราคาสินค้าไทยในต่างประเทศสูงขึ้น และกระทบต่อการท่องเที่ยว
• ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ: ภาคอุตสาหกรรมกังวลอย่างมากต่อมาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าที่ได้รับผลกระทบแล้ว เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม ยานยนต์ ชิ้นส่วน และเฟอร์นิเจอร์
• ปัญหาหนี้และสภาพคล่อง: ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs กำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินและขาดความรู้/นวัตกรรม

fti-bot-discussion-strong-baht-debt-us-taxes-SPACEBAR-Photo01.jpg

ยุทธศาสตร์ ‘พลิกโฉมอุตสาหกรรม’ ของ ส.อ.ท.

ส.อ.ท. ได้นำเสนอนโยบายเพื่อยกระดับขีดความสามารถของประเทศ มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่

1. ยกระดับการผลิต
• เปลี่ยนจาก OEM เป็น ODM/OBM คือเปลี่ยนจากการเป็น ผู้ผลิตตามสั่ง (ผลิตให้แบรนด์อื่น) ไปสู่การเป็น ผู้ผลิตที่ออกแบบเอง หรือ ผู้ผลิตและสร้างแบรนด์ของตัวเอง
• ใช้เทคโนโลยีแทนแรงงาน เปลี่ยนจากการใช้แรงงานเป็นหลัก มาใช้ ดิจิทัล, AI, และระบบอัตโนมัติ
• เปลี่ยนสู่แรงงานมีทักษะ พัฒนาแรงงานไร้ฝีมือ (Unskilled Labour) เป็นแรงงานที่มีทักษะสูง (High-skilled Labour) ผ่านกลไก จ่ายตามทักษะ (Pay by skills)

2. แนวคิด 4GO สำหรับ SMEs
• Go Digital & AI โดยใช้เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการขายออนไลน์ (e-Commerce)
• Go Innovation สร้างผู้ประกอบการที่เน้นนวัตกรรม (จิ๋วแต่แจ๋ว) เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและลดต้นทุนด้วยระบบอัตโนมัติ
• Go Global ยกระดับมาตรฐานสินค้าให้เป็นที่ยอมรับระดับโลก ขยายตลาดส่งออกไปภูมิภาคอื่น และสร้างแบรนด์ไทยสู่สากล
• Go Green ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน และมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero (การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์) โดยปรับใช้กระบวนการผลิตและวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (สอดคล้องกับแนวคิด BCG Model และ ESG)

ภารกิจหลักของ ธปท. ในการเสริมเสถียรภาพ

วิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธปท. ยืนยันถึงภารกิจหลัก 3 ส่วนในการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว

1. เสถียรภาพทางการเงิน ดูแลให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำและไม่ผันผวน ป้องกันภาวะเงินฝืด
2. เสถียรภาพระบบสถาบันทางการเงิน ดูแลให้ธนาคารและสถาบันการเงินมีความมั่นคง สามารถให้บริการธุรกิจและประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง
3. เสถียรภาพระบบการชำระเงิน ดูแลให้ระบบมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

fti-bot-discussion-strong-baht-debt-us-taxes-SPACEBAR-Photo02.jpg

วิทัยย้ำว่า ธปท. เห็นปัญหาเชิงโครงสร้างเดียวกันกับ ส.อ.ท. และจะร่วมกันหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตในระดับที่เหมาะสม

ข้อเสนอสำคัญจาก ส.อ.ท. ถึงภาครัฐ

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรับมือกับความท้าทาย ส.อ.ท. ได้เสนอแนวทางปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้

1. รับมือภาษีสหรัฐฯ และการค้าโลก

• สินเชื่อพิเศษ โดยเสนอให้มีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบในการ ปรับตัวทางธุรกิจ (Transformation) และปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ด้านมูลค่าเพิ่มในประเทศ (RVC) ของสหรัฐฯ
• ตลาดใหม่ สนับสนุนการหาตลาดส่งออกใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยงทางการค้า
• มาตรการบรรเทา เสนอให้ชะลอการจัดชั้นหนี้ และปรับโครงสร้างสินเชื่อสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบในช่วงปรับตัว

2. การดูแลค่าเงินบาท

• รักษาเสถียรภาพ ดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทผันผวนหรือ แข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาค เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน
• ส่งเสริม Hedging ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

3. ส่งเสริม SMEs และสภาพคล่อง

• สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแบบมีเป้าหมาย เปิดโอกาสให้ธนาคารพาณิชย์เข้าถึงเงินจาก ธปท. ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ หากปล่อยสินเชื่อให้ SMEs กลุ่มเป้าหมาย เช่น ธุรกิจส่งออก, นวัตกรรม, หรือธุรกิจสีเขียว
• สินเชื่อเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ “ธุรกิจสีเขียวและดิจิทัล” โดยเสนอสินเชื่อพิเศษดอกเบี้ยต่ำ 2% สำหรับ SMEs ที่ลงทุนในพลังงานสะอาด การลดคาร์บอน ระบบอัตโนมัติ และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
• ระบบเครดิตทางเลือก สร้างแพลตฟอร์มกลางเพื่อใช้ข้อมูลการค้าขายผ่าน e-commerce, ภาษี, ค่าน้ำ, ค่าไฟ มาประเมินความเสี่ยงในการให้สินเชื่อ แทนหลักประกันแบบเดิม
• ตั้ง ‘กองทุน SME’ เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย ลดอุปสรรคเรื่องหลักประกัน และใช้บริหารจัดการหนี้เสีย (NPL)

4. ส่งเสริมสินค้าไทย (MiT)

• ผลักดันการใช้ MiT จริงจัง สนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้ใช้สินค้า Made in Thailand (MiT) อย่างชัดเจน กำหนดเป็นตัวชี้วัด และขยายไปสู่โครงการร่วมลงทุนรัฐ-เอกชน (PPP)
• สินเชื่อพิเศษสำหรับ MiT จัดทำสินเชื่อพิเศษสำหรับผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับสินค้า MiT เพื่อเสริมความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศ

การร่วมมือระหว่าง ส.อ.ท. และ ธปท. ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะร่วมกันทำงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

fti-bot-discussion-strong-baht-debt-us-taxes-SPACEBAR-Photo04.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์