พลังงาน ชูดีลอาเซียน สร้างเกราะพลังงานภูมิภาค

8 ต.ค. 2568 - 03:37

  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเตรียมเสนอ 2 ข้อตกลงสำคัญต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในภูมิภาคอาเซียน

  • หนุนโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน-พลังงานสะอาด เชื่อมโยงภูมิภาค

  • วางกรอบช่วยเหลือปิโตรเลียม ยามขาดแคลน-วิกฤติพลังงาน

พลังงาน ชูดีลอาเซียน สร้างเกราะพลังงานภูมิภาค

กระทรวงพลังงานเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างข้อตกลงสำคัญระดับภูมิภาค 2 ฉบับแล้ว เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของไทยและอาเซียน ก่อนการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 43 (AMEM) ซึ่งจะจัดขึ้นกลางเดือนตุลาคมนี้ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เผย ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ (7 ตุลาคม 2568) กระทรวงพลังงานได้นำเสนอร่างข้อตกลงความร่วมมือด้านพลังงานอาเซียนต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมลงนามในเวทีรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ซึ่งจะมีรัฐมนตรีจาก 10 ประเทศเข้าร่วม

ข้อตกลงแรก คือ ร่างบันทึกความเข้าใจเพิ่มเติมว่าด้วยโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (Enhanced MOU on ASEAN Power Grid) ซึ่งจะเป็นกรอบความร่วมมือในการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าภายในภูมิภาคทั้งบนบกและในทะเล เพื่อเพิ่มการเชื่อมโยงทางพลังงาน ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และพัฒนาตลาดไฟฟ้าอาเซียนให้มีเสถียรภาพมากขึ้น

อรรถพลระบุว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยเปิดทางให้ประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมกันศึกษา ทบทวนนโยบาย และประสานการลงทุนในโครงการเชื่อมโยงสายส่งไฟฟ้าข้ามพรมแดน รวมถึงการระดมงบประมาณและเทคโนโลยีจากองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อผลักดันให้โครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าอาเซียนเกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้

อีกหนึ่งข้อตกลงสำคัญคือ ร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความมั่นคงทางปิโตรเลียมของอาเซียน (ASEAN Framework Agreement on Petroleum Security) ซึ่งจะเป็นกลไกกลางช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ประสบภาวะขาดแคลนปิโตรเลียมหรือเผชิญวิกฤติด้านพลังงาน โดยจะมีการร่วมกันจัดหาและแบ่งปันปิโตรเลียมในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจและความเป็นไปได้ทางพาณิชย์ของแต่ละประเทศ

“ประเทศไทยเป็นประเทศนำเข้าพลังงานสุทธิ การสร้างความมั่นคงทางพลังงานจึงเป็นเรื่องสำคัญ และการร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนเป็นอีกหนึ่งกลไกที่ช่วยเสริมความยืดหยุ่นและลดความเสี่ยงจากวิกฤติพลังงานในอนาคต”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว

ทั้งนี้ รัฐมนตรีพลังงานไทยมีกำหนดเดินทางไปร่วมประชุมและลงนามในข้อตกลงทั้งสองฉบับในเวที รัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 43 (AMEM) ระหว่างวันที่ 16–17 ตุลาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

การเห็นชอบจาก ครม. ถือเป็นก้าวสำคัญของไทยในการขับเคลื่อนความร่วมมือพลังงานระดับภูมิภาค ซึ่งจะช่วยยกระดับความมั่นคงทางไฟฟ้าและน้ำมัน ลดความเสี่ยงด้านอุปทานในภาวะวิกฤติ และเปิดโอกาสการลงทุนด้านพลังงานสะอาด รวมถึงดึงดูดนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการใช้พลังงานหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์