Meta เปิดเผยการดำเนินมาตรการรุกในการต่อสู้กับแก๊งมิจฉาชีพ โดยปิดบัญชี WhatsApp เกือบ 7 ล้านบัญชีที่เชื่อมโยงกับการหลอกลวงในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 พร้อมเพิ่มมาตรการคุ้มครองผู้ใช้จากการโจมตีทางไซเบอร์
Claire Deevy ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภายนอก WhatsApp ระบุว่า "ทีมงานระบุและปิดการใช้งานบัญชีเหล่านี้ก่อนที่องค์กรอาชญากรรมจะสามารถใช้งานได้" การหลอกลวงส่วนใหญ่ดำเนินการโดยแก๊งที่มีการจัดองค์กรอย่างเป็นระบบ
รูปแบบการหลอกลวงที่พบเจอ
ผู้บริหาร WhatsApp เปิดเผยว่าการหลอกลวงมีหลายรูปแบบ ตั้งแต่การลงทุนสกุลเงินดิจิทัลปลอม ไปจนถึงโครงการปิรามิดที่อ้างว่าทำให้รวยง่าย โดยมีสัญญาณเตือนที่ชัดเจนคือ "เหยื่อต้องจ่ายเงินล่วงหน้าเพื่อรับผลตอบแทนที่สัญญาไว้"
ข้อมูลจาก Meta ระบุว่า WhatsApp ตรวจพบและแบนบัญชีมากกว่า 6.8 ล้านบัญชีที่เชื่อมโยงกับศูนย์หลอกลวง โดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ความร่วมมือในการต่อสู้เทคโนโลยี
การร่วมมือระหว่าง WhatsApp, Meta และ OpenAI ได้สำเร็จในการขัดขวางแก๊งหลอกลวงจากกัมพูชาที่ใช้ ChatGPT สร้างข้อความที่มีลิงก์ไปยังแชท WhatsApp เพื่อล่อลวงเหยื่อ ซึ่งแสดงให้เห็นการปรับตัวของอาชญากรในการใช้เทคโนโลยี AI
มาตรการใหม่ป้องกันผู้ใช้
ตั้งแต่วันอังคาร Meta เริ่มใช้ระบบเตือนผู้ใช้ WhatsApp เมื่อถูกเพิ่มเข้ากลุ่มแชทโดยบุคคลที่ไม่คุ้นเคย ฟีเจอร์ "ภาพรวมความปลอดภัย" ใหม่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มและเคล็ดลับการสังเกตการหลอกลวง พร้อมตัวเลือกออกจากกลุ่มอย่างรวดเร็ว
Meta กล่าวว่า "เราทุกคนเคยประสบปัญหานี้ มีคนที่เราไม่รู้จักพยายามส่งข้อความหรือเพิ่มเราเข้ากลุ่มแชท โดยสัญญาโอกาสลงทุนความเสี่ยงต่ำหรือเงินง่าย หรือบอกว่าเรามีค่าใช้จ่ายค้างชำระ" จริงแล้วสิ่งเหล่านี้มักเป็นการหลอกลวงที่ใช้ความเมตตา ความไว้ใจ และความกลัวของผู้คนเป็นเครื่องมือ
การปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยครั้งนี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ที่พัฒนาวิธีการใหม่อย่างต่อเนื่อง