จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง โดยคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2568 และข้าวนาปี ปีการผลิต 2568/69 รวมวงเงินกว่า 44,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาข้าวตกต่ำและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเน้นช่วยเหลือเป็นเงินสดตรงถึงมือเกษตรกร
รายละเอียดมาตรการ
• จ่ายเงินสนับสนุน ไร่ละ 1,000 บาท
• ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ หรือสูงสุด 10,000 บาท/ครัวเรือน
• ครอบคลุมเกษตรกรนาปรัง ปี 2568 จำนวน 854,142 ครัวเรือน พื้นที่เพาะปลูกรวม 11.85 ล้านไร่
• ใช้งบประมาณ 7,287.24 ล้านบาท จ่ายตรงเข้าบัญชีเกษตรกรกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
• เริ่มโอนเงิน ภายในเดือนกันยายนนี้
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบและปรับเปลี่ยนเป็น “โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าว ปีการผลิต 2568/69” และจ่ายในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ลดภาระต้นทุนการผลิต และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ และจูงใจให้พัฒนาคุณภาพข้าวให้ได้มาตรฐานและเป็นที่ต้องการของตลาด ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความมั่นคงในอาชีพของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว วงเงิน 37,935.36 ล้านบาท คาดว่าจะจ่ายได้ภายหลังการลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิในปลายปีหน้า
เหตุผลที่ต้องเร่งช่วย
ปีนี้ถือเป็นสถานการณ์พิเศษที่รัฐบาลต้อง ‘ผ่อนหลักเกณฑ์’ เพราะราคาข้าวในตลาดโลกปรับลดลงอย่างมาก หลังอินเดีย ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก เปิดให้ส่งออกอีกครั้ง ทำให้ราคาข้าวไทยต่ำกว่าต้นทุนการผลิต เกษตรกรหลายรายประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง
มาตรการนี้จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติขั้นสุดท้ายก่อนดำเนินการจ่ายจริง คาดว่าจะมีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกว่า 4 ล้านครัวเรือนได้รับสิทธิ
ดันโควตาส่งออกข้าวอินทรีย์ไปยุโรป
นอกจากการช่วยเหลือรายได้ในประเทศ รัฐบาลยังมีแผนเพิ่มมูลค่าข้าวไทยในตลาดโลก ผ่านโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร โดยเตรียมจัดสรรโควตาส่งออกข้าวอินทรีย์ไปยังสหภาพยุโรป สำหรับปี 2569 – 2571 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรขยายการผลิตข้าวอินทรีย์ที่ได้มาตรฐานสากล
การจัดสรรโควตาดังกล่าวมอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พิจารณาตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่เหมาะสม เพื่อให้ไทยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดข้าวอินทรีย์ในยุโรปได้อย่างยั่งยืน