ราคาทองคำในประเทศปรับลดลง 100 บาท ขณะที่ราคาทองคำโลกเผชิญแรงกดดันจากแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางการค้า ด้านฮั่วเซ่งเฮงประเมินแนวรับสำคัญและกลยุทธ์ลงทุนช่วงตลาดผันผวน
วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ราคาทองคำในประเทศเปิดตลาดปรับลดลง 100 บาทจากราคาปิดเมื่อวานนี้ โดยราคาทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่ 51,050 บาท ขายออก 51,150 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณรับซื้อที่ 50,028 บาท และขายออกที่ 51,950 บาท อ้างอิงจากประกาศของสมาคมค้าทองคำเมื่อเวลา 09.07 น.
ล่าสุดราคาทองคำในประเทศมีการเปลี่ยนแปลง 3 ครั้ง เวลา 10.10 นาที โดยราคาทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่ 51,050 บาท ขายออก 51,150 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณรับซื้อที่ 50,028 บาท และขายออกที่ 51,950 บาท ปรับลดลง 100 บาท
ในขณะเดียวกัน ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) เคลื่อนไหวอยู่ที่ 3,36.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง +1.20 ดอลลาร์ หรือ +0.04% เมื่อเวลา 10.45 น.
ราคาทองคำโลกยังเผชิญแรงกดดันจากเฟดและความเสี่ยงสงครามการค้า
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง ได้เปิดเผยบทวิเคราะห์ โดยระบุว่า ตลาดทองคำทั่วโลกยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยของเฟดที่อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงความไม่แน่นอนของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าหลัก ก่อนถึงเส้นตาย 1 สิงหาคม
ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรปที่ 15% และเตรียมซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ มูลค่า 7.5 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมแผนลงทุนในสหรัฐฯ อีกกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังบรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลในระยะสั้นของตลาด แม้จะยังมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการเก็บภาษีสินค้าบางประเภท เช่น ยา เหล็ก และอะลูมิเนียม ที่ยังคงใช้อัตราภาษีระดับสูงอยู่
ตลาดรอฟังผลประชุมเฟด 30-31 ก.ค. นี้
ความสนใจของตลาดในสัปดาห์นี้อยู่ที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ระหว่างวันที่ 30-31 กรกฎาคม โดยข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ระบุว่า ตลาดให้น้ำหนักถึง 95.9% ว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25 – 4.50% ขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มว่าเฟดอาจเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนและธันวาคมนี้
ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ กับเฟดยังคงดำเนินต่อ โดยรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ เรียกร้องให้มีการทบทวนบทบาทของเฟด พร้อมตั้งคำถามว่า “เฟดประสบความสำเร็จจริงหรือไม่” พร้อมทั้งเรียกร้องให้เฟดเร่งลดดอกเบี้ยเพื่อหนุนเศรษฐกิจ ท่าทีนี้สอดคล้องกับแรงกดดันจากทำเนียบขาวในยุคทรัมป์ที่ต้องการเฟดดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายมากขึ้น
แนวโน้มทองคำและกลยุทธ์การลงทุน โดยฮั่วเซ่งเฮง
บทวิเคราะห์จากบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง ประเมินว่า ราคาทองคำในตลาดโลกอาจเกิดแรงดีดกลับทางเทคนิค (Technical Rebound) จากภาวะ Bullish Divergence ใน MACD และ RSI ระยะสั้นยังคงมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 3,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดแนวรับนี้มีโอกาสเกิดแรงขายต่อเนื่อง โดยเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 3,240 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (EMA100)
ในทางกลับกัน หากราคาทองคำสามารถดีดตัวขึ้นทะลุแนวต้าน 3,370 ดอลลาร์ได้ อาจกลับไปทดสอบระดับ 3,440 ดอลลาร์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ภาพรวมระยะกลางยังถูกจำกัดจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคและการเมืองระหว่างประเทศ
คำแนะนำการลงทุน
• เปิดสถานะ “ซื้อ” เมื่อราคาทองคำปรับตัวลงบริเวณ 51,000 – 51,100 บาท
• ตั้งจุดตัดขาดทุนที่ระดับ 50,800 บาท
• ปิดทำกำไรบางส่วนที่ระดับ 51,600 บาท และถัดไปที่ 52,100 บาท
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้:
• 30-31 ก.ค. การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
• 29 ก.ค. ตัวเลข JOLTS (ตำแหน่งงานเปิดรับสมัครใหม่)
• 30 ก.ค. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (ADP) และ GDP Q2 (ประมาณการครั้งที่ 1)
• 31 ก.ค. ดัชนี PCE Core เดือนมิ.ย.
• 1 ส.ค. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนก.ค.