สหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงสำคัญเมื่อวันพุธ เพื่อห้ามการนำเข้าก๊าซธรรมชาติรัสเซียทั้งหมดภายในฤดูใบไม้ร่วงปี 2027 ในความพยายามตัดขาดแหล่งเงินทุนสำคัญที่หล่อเลียงการทำสงครามของมอสโก
ข้อตกลงที่เจรจาตลอดคืนนี้มีเป้าหมายยุติการพึ่งพิงพลังงานที่กลุ่ม EU ดิ้นรนจะตัดขาดมาตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน และเป็นการประนีประนอมระหว่างประเทศสมาชิกกับรัฐสภายุโรปที่ต้องการให้มีผลบังคับใช้เร็วกว่านี้
เส้นเวลาการห้ามนำเข้าก๊าซ
ภายใต้ข้อตกลงนี้ สัญญาท่อส่งก๊าซระยะยาว ซึ่งถือเป็นประเด็นที่อ่อนไหวที่สุดเนื่องจากสามารถดำเนินต่อไปได้หลายทศวรรษ จะถูกห้ามตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2027 หากระดับการกักเก็บมีความเพียงพอ และไม่เกิน 1 พฤศจิกายน 2027 ในทุกกรณี
สำหรับก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สัญญาระยะยาวจะถูกห้ามตั้งแต่ 1 มกราคม 2027 สอดคล้องกับคำเรียกร้องของประธานคณะกรรมาธิการ Ursula von der Leyen ให้เข้มงวดกับการคว่ำบาตรมอสโกมากขึ้น
การลดการพึ่งพิงพลังงานรัสเซีย
ข้อตกลงนี้ยังเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปจัดทำแผนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อยุติการนำเข้าน้ำมันรัสเซียไปยังฮังการีและสโลวาเกียภายในสิ้นปี 2027
นายกรัฐมนตรีฮังการี Viktor Orban ผู้นำ EU ที่ใกล้ชิดเครมลินมากที่สุด เคยแสดงท่าทีท้าทายบรัสเซลส์เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยให้คำมั่นว่าจะยังคงนำเข้าไฮโดรคาร์บอนรัสเซียต่อไปในระหว่างการประชุมกับประธานาธิบดี Vladimir Putin
สถิติการนำเข้าก๊าซ
สัดส่วนก๊าซรัสเซียในการนำเข้าของ EU ได้ลดลงจาก 45% ในปี 2021 เหลือ 19% ในปี 2024 แม้ยุโรปจะลดการนำเข้าผ่านท่อส่งลง แต่ยังหันไปใช้ LNG ที่ขนส่งทางเรือและนำเข้าผ่านท่าเรือ
รัสเซียยังคงเป็นผู้จัดหาสำคัญรองจากสหรัฐอเมริกา โดยคิดเป็น 20% ของการนำเข้า LNG ของ EU ในปี 2024 หรือประมาณ 20 พันล้านลูกบาศก์เมตรจากรวม 100 พันล้านลูกบาศก์เมตร การนำเข้า LNG รัสเซียเข้า EU ในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 15 พันล้านยูโร


