สหภาพยุโรปเปิดการสอบสวนการผูกขาดต่อบริษัทเมตา (Meta) หลังมีความกังวลว่านโยบายใหม่เกี่ยวกับฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในแอปพลิเคชันวอทส์แอป (WhatsApp) อาจละเมิดกฎหมายการแข่งขันของกลุ่มประเทศ 27 ชาติ
คณะกรรมาธิการยุโรปแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่าเปิดสอบสวนภายใต้กฎหมายการต่อต้านการผูกขาด เพื่อพิจารณาว่าการเปิดตัวฟีเจอร์ AI ของเมตาในวอทส์แอปละเมิดกฎระเบียบการแข่งขันของสหภาพยุโรปหรือไม่
นโยบายใหม่กีดกันคู่แข่งในตลาด AI
คณะกรรมาธิการระบุความกังวลต่อนโยบายใหม่ของเมตาที่ประกาศเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจป้องกันไม่ให้ผู้ให้บริการ AI รายอื่นเสนอบริการผ่านวอทส์แอป โดยเฉพาะในกรณีที่ AI เป็นบริการหลัก เช่น แชทบอท AI หรือผู้ช่วยดิจิทัล
เทเรซา ริเบรา หัวหน้าฝ่ายการแข่งขันของสหภาพยุโรป กล่าวว่า เราต้องดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทดิจิทัลใหญ่ที่มีอำนาจเหนือกว่าใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อขจัดคู่แข่งที่มีนวัตกรรม พร้อมเน้นย้ำความจำเป็นในการตรวจสอบว่านโยบายของเมตาผิดกฎหมายการแข่งขันหรือไม่
วอทส์แอปปฏิเสธข้อกล่าวหา
โฆษกวอทส์แอปปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า ข้อกล่าวหานี้ไร้มูลความจริง การเกิดขึ้นของแชทบอท AI ใน Business API ของเราสร้างความกดดันต่อระบบที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับสิ่งนี้ พร้อมระบุว่าตลาด AI มีการแข่งขันสูงและผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้หลากหลายช่องทาง
กรณีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
การสอบสวนครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจยุโรป ยกเว้นอิตาลีที่เปิดการสอบสวนแยกต่อเมตาเมื่อเดือนกรกฎาคม เนื่องจากการรวม Meta AI เข้ากับวอทส์แอปอาจบังคับให้ผู้ใช้ใช้บริการ AI ของบริษัท
นอกจากนี้ เมตายังเผชิญความเสี่ยงถูกปรับภายใต้กฎหมายบริการดิจิทัล (DSA) หลายกรณี รวมถึงข้อหาไม่ให้นักวิจัยเข้าถึงข้อมูลสาธารณะอย่างเพียงพอ และการไม่จัดหาวิธีที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ในการรายงานเนื้อหาผิดกฎหมาย บริษัทยังถูกสอบสวนเรื่องการไม่จัดการกับลักษณะเสพติดของแพลตฟอร์มสำหรับเด็ก และได้ยื่นอุทธรณ์ต่อค่าปรับ 200 ล้านยูโรจากการบังคับให้ผู้ใช้เลือกระหว่างการสมัครสมาชิกแบบไม่มีโฆษณาหรือบริการฟรีที่มีโฆษณา


