ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดและข้อพิพาทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประเด็นการควบคุมการเคลื่อนย้ายพลังงานกลายเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญด้านความมั่นคง ล่าสุด บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ออกมาชี้แจงและยืนยันจุดยืนชัดเจนว่า กลุ่มไทยออยล์ไม่มีการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังประเทศกัมพูชาแต่อย่างใด และได้งดการส่งออกไปยังประเทศที่มีข้อพิพาทมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางปี 2568
ไทยออยล์ระบุว่า บริษัทมีนโยบายงดการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังกัมพูชานับตั้งแต่เกิดกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา และได้ถือปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวอย่างเคร่งครัด สอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงพลังงาน โดยคำนึงถึงความมั่นคงของประเทศและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ
ภายหลังศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 มีคำสั่งควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2568 บริษัทได้ให้ความร่วมมือทันที ด้วยการงดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อการส่งออก ณ จุดผ่านแดนดังกล่าว พร้อมปรับแผนการส่งออกให้สอดคล้องกับนโยบายด้านความมั่นคงของรัฐ และให้ความสำคัญกับการรองรับความต้องการใช้พลังงานภายในประเทศเป็นหลัก
สำหรับกรณีรถขนส่งน้ำมันจำนวน 14 คันที่ค้างอยู่บริเวณจุดผ่านแดนช่องเม็ก ไทยออยล์ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพบว่า “เป็นน้ำมันที่ได้ส่งมอบให้แก่ลูกค้าแล้วตามกระบวนการค้าปกติ” ก่อนที่คำสั่งควบคุมจะมีผลบังคับใช้ โดยมีปลายทางเป็นบริษัทน้ำมันในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ไม่ใช่ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ภายใต้กรอบกฎหมายและคำสั่งของภาครัฐอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ไทยออยล์ยังได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังบริษัทลูกค้าทุกราย เพื่อย้ำเจตนารมณ์ชัดเจนว่า บริษัทไม่สนับสนุนการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังกัมพูชา และขอความร่วมมือให้ลูกค้าทุกฝ่ายงดการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังประเทศดังกล่าว ภายใต้กรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ไทยออยล์ยืนยันว่า มาตรการดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน การผลิต และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท พร้อมย้ำว่าหากตรวจพบการกระทำใดที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัท รวมถึงรักษาความเชื่อมั่นด้านพลังงานและความมั่นคงของประเทศในภาพรวม
