ภายใต้สัญญาณบวกของเศรษฐกิจพลังงานโลก จากราคาก๊าซธรรมชาติที่เริ่มคลายตัวไปจนถึงเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเกมทบทวน ‘ค่าไฟฟ้าผันแปร’ (Ft) งวดใหม่ ก.ย.–ธ.ค. 2568 เสนอ 3 ทางเลือกค่ากระแสไฟสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ โดยมีกรอบค่าไฟเฉลี่ยระหว่าง 3.98–5.10 บาทต่อหน่วย ขึ้นอยู่กับระดับการชำระ ‘หนี้สะสมค่าเชื้อเพลิง’ ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกรับมาตลอดช่วงวิกฤตพลังงานที่ผ่านมา

ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. เปิดเผยว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าปลายปีนี้ลดลง มาจากการที่ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยกลับมาสู่ภาวะปกติ และเงินบาทแข็งค่าขึ้นจาก 34.27 เป็น 32.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ราคา LNG ในตลาดโลกก็ลดลงเหลือ 13.9 ดอลลาร์/ล้านบีทียู
อย่างไรก็ตาม กกพ. ยังต้องบริหารความเสี่ยงอีกด้าน คือ ‘หนี้คงค้าง’ ที่ กฟผ. แบกรับในช่วงปี 2564–2566 ซึ่งยังมีอยู่มากกว่า 66,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาแม้จะทยอยเก็บคืนผ่านค่าไฟ แต่ยังต่ำกว่าเป้ากว่า 8,000 ล้านบาท
3 ทางเลือกสำคัญ ค่าไฟงวดปลายปี
กกพ. จึงเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ เพื่อเลือกระหว่าง 3 ทางเลือกค่า Ft ที่จะมีผลต่อค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปลายปีนี้ ได้แก่:
ทางเลือกที่ 1 จ่ายหนี้คืนเต็มจำนวน – ค่า Ft เพิ่มเป็น 1.3194 บาท/หน่วย ค่าไฟเฉลี่ย 5.10 บาท/หน่วย
ทางเลือกที่ 2 จ่ายคืนหนี้ กฟผ. แต่ยังไม่คืนส่วนต่างก๊าซ – ค่าไฟเฉลี่ย 4.87 บาท/หน่วย
ทางเลือกที่ 3 ตรึง Ft ไว้ที่ระดับเดิม – ค่า Ft เพียง 0.1972 บาท/หน่วย ค่าไฟเฉลี่ย 3.98 บาท/หน่วย แต่ยังมีหนี้สะสมต่อเนื่อง

เดินหน้ารับฟังความเห็นทั่วประเทศ
ทั้งนี้ กกพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผ่านเว็บไซต์สำนักงาน ตั้งแต่วันที่ 17–28 กรกฎาคม 2568 ก่อนเคาะราคาอย่างเป็นทางการปลายเดือนนี้
พร้อมกันนี้ยังรณรงค์ ‘5 ป.’ เพื่อลดภาระค่าไฟ ได้แก่ ปลดปลั๊ก–ปิดไฟ–ปรับแอร์ 26 องศา–เปลี่ยนอุปกรณ์เบอร์ 5–ปลูกต้นไม้ลดความร้อน
คำถามสำคัญสำหรับรอบนี้คือ… จะให้ค่าไฟคงที่ในระยะสั้น หรือเคลียร์หนี้ระบบพลังงานให้หมดภายในปี 2568?