กสทช. เรียกผู้ให้บริการมือถือ หารือมาตรการสกัดสแกมเมอร์

22 ต.ค. 2568 - 10:01

  • จำกัดรัศมีการให้บริการ หรือ Cell Radius บริเวณชายแดน

  • ตรวจสอบคู่สัญญาบริการที่มีความเสี่ยงหรือพฤติกรรมการใช้บริการที่มีความเสี่ยง

  • ไม่นำ IP address ที่จดทะเบียนในไทยไปให้บริการในต่างประเทศ

กสทช. เรียกผู้ให้บริการมือถือ หารือมาตรการสกัดสแกมเมอร์

ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 1/2568 โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) กำชับผู้ให้บริการโทรคมนาคมห้ามมิให้นำโครงข่ายโทรคมนาคมหรือนำเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของผู้รับใบอนุญาตไปใช้ในการประกอบธุรกิจโดยมิชอบด้วยกฎหมายไม่ว่าทางตรง และทางอ้อม

economic-business-thai-scammer-block-SPACEBAR-Photo01.jpg

สำนักงาน กสทช. จึงได้เชิญผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเข้าร่วมประชุมเร่งด่วน เพื่อรับทราบและให้ปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ดังนี้

1.        มาตรการสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ (เสาสัญญาณ) บริเวณชายแดน ให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมดำเนินการตามมาตรการการควบคุมความสูงสายอากาศของสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่บริเวณชายแดนที่ได้ออกมาตรการไปก่อนหน้านี้ และให้ใช้เทคนิค “การจำกัดรัศมีการให้บริการ หรือ Cell Radius” บริเวณชายแดน ซึ่งการใช้เทคนิคดังกล่าวสามารถกำหนดขอบเขตทางภูมิศาสตร์ของการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จากสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละแห่ง โดยไม่ต้องจำกัดความสูงของจุดติดตั้งสายอากาศ แต่เป็นการจำกัดการใช้งานของอุปกรณ์ผู้ให้บริการให้อยู่ภายในรัศมีที่กำหนดไว้เป็นระยะทางจากสถานีฐาน ซึ่งการใช้เทคนิคดังกล่าวสามารถควบคุมไม่ให้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ล้ำข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้

2.        สำนักงาน กสทช. สั่งกำชับให้ผู้รับใบอนุญาตที่ให้บริการโทรคมนาคมตรวจสอบคู่สัญญาบริการที่มีความเสี่ยงหรือพฤติกรรมการใช้บริการที่มีความเสี่ยง หากตรวจพบให้ดำเนินการระงับบริการและแจ้งมายังสำนักงาน กสทช. ทันทีเพื่อนำไปขยายผล หากไม่ดำเนินการต้องมีส่วนร่วมรับผิดตามมาตรา 4/1 แห่งพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

3.        สำนักงาน กสทช. สั่งกำชับให้ผู้รับใบอนุญาตที่ให้บริการโทรคมนาคมระหว่างประเทศต้องไม่นำ IP address ซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทยไปให้บริการในต่างประเทศ

“วันนี้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีกลายเป็นปัญหาระดับโลก และเป็นเรื่องสำคัญของไทยที่ฉุดรั้งการพัฒนาเศรษฐกิจ และก่อปัญหาทางสังคมให้คนไทย นายกรัฐมนตรีได้สั่งกำชับเรื่องนี้ให้สำนักงาน กสทช. ดูแลเข้มงวด จึงได้เรียกผู้ประกอบการโทรคมนาคมมารับทราบและดำเนินการตามมาตรการที่สำนักงาน กสทช. ได้ออกมาอย่างต่อเนื่องตลอด ทั้งการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่บริเวณชายแดน การกำหนดมาตรการลดความสูงสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ และจะมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้จำกัดสัญญาณโทรศัพท์ให้ใช้งานได้เฉพาะภายในเขตพื้นที่ประเทศไทยเพื่อไขปัญหาสัญญาณล้ำไปยังประเทศเพื่อนบ้านซึ่งกลุ่มอาชญากรอาจนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะชายแดนประเทศกัมพูชา โดยยังคงคุณภาพการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บริเวณชายแดนให้ประชาชนสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการหรือไม่ให้ความร่วมมือจะเป็นการกระทำผิดเงื่อนไขในการอนุญาตข้อ 12.16 ของประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตพึงระมัดระวังเท่าที่เป็นไปได้ในเชิงเทคโนโลยี มิให้ผู้ใดนำโครงข่ายโทรคมนาคมหรือนำเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของผู้รับใบอนุญาตไปใช้ในการประกอบธุรกิจโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือเผยแพร่ซึ่งข้อมูลอันอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และต้องสนับสนุนหน่วยงานของรู้และเอกชนในการดำเนินการใด ๆ เพื่อปกป้องสิทธิของผู้บริโภคเพื่อความปลอดภัยของสังคม และความมั่นคงของรัฐและอาจเป็นผลให้ กสทช. พิจารณาพักใช้ เพิกถอน หรือสิ้นสุดใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ตามมาตรา 64 มาตรา 65 และ มาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544”

เตรียมเสนอ ‘เน็ตคนละครึ่ง” แพคละ 160 บาท เข้า ครม. สัปดาห์หน้า

สำนักงาน กสทช. ผลักดันโครงการ ‘อินเทอร์เน็ตคนละครึ่ง’ ช่วยผู้สูงอายุและผู้พิการที่มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและยกระดับทักษะดิจิทัล โดยผลของการหารือ ผู้ร่วมโครงการจะได้บริการอินเทอร์เน็ตราคา 160 บาท (VAT) ความเร็วที่ 40  GB  30 วัน ระยะเวลา หลังจาก สิ้นสุดกำหนดเวลา ให้ใช้ได้ความเร็ว 512  MB  ทั้งนี้บริการนี้ไม่รวม บริการเสียง non voice

สำนักงาน กสทช. และขอความร่วมมือผู้ให้บริการบริษัทมือถือในการเปลี่ยน เครื่องโทรศัพท์ เพื่อใช้ในบริการนี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนผ่านไปใช้เทคโนโลยีสื่อสาร ที่มีความเร็วมากขึ้น สอดคล้องกับแผนที่จะปิด 2-3G ในเร็ว ๆ นี้ด้วย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์