เมื่อภาระค่าครองชีพที่พุ่งไม่หยุด จนรู้สึกว่าสภาพคล่องในการจ่ายค่างวดผ่อนรถเริ่มฝืด ส่งผลให้กระแสเงินสดในครัวเรือนตึงตัวแบบไม่ทันตั้งตัว ผู้ใช้รถจำนวนไม่น้อยจึงเริ่มมองหา “รีไฟแนนซ์” เพื่อย้ายสัญญาไปยังสถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการทางการเงินที่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระนานขึ้น เพื่อให้ค่างวดกลับมาอยู่ในจุดที่รับไหว
นอกจากจะลดค่างวด การรีไฟแนนซ์ยังปลดล็อก “มูลค่าที่ซ่อนอยู่” ของรถออกมาเป็นเงินก้อนในวันที่ต้องใช้ฉุกเฉิน โดยยังถือกรรมสิทธิ์และใช้รถได้ตามปกติ ต่างจากการขายขาดที่ต้องเสียรถคู่ใจไปอย่างถาวร
จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า ณ สิ้นปี 2567 ยอดธุรกรรมเช่าซื้อ-จำนำทะเบียนรถในไทยพุ่งแตะ 1.6 ล้านล้านบาท และกว่า 1ใน5 ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “เสี่ยงผิดนัดชำระ” การ “รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด” กำลังเป็นอีกกลยุทธ์จัดการกระแสเงินสดที่คนมีรถหันมาใช้มากขึ้น เพราะช่วย ลดค่างวดต่อเดือน – ขยายระยะเวลาผ่อน – และหยิบเงินก้อนส่วนต่างมาใช้ยามฉุกเฉิน ทั้งยังไม่ต้องสูญเสียการเป็นเจ้าของรถ เงื่อนไขหลักเพียงรถต้องผ่อนไปแล้วราว 50 % ขึ้นไปของสัญญาเดิม ก็สามารถย้ายยอดไปสถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการฯ ใหม่ได้ทันที
เมื่อต้องการรีไฟแนนซ์รถ ต้องทำอย่างไร
1. เตรียมเอกสารให้ครบ บัตรประชาชน สำเนาเล่มทะเบียนรถ สลิปเงินเดือน/รายการเดินบัญชี และหนังสือรับรองยอดหนี้จากไฟแนนซ์เดิม ตรวจดูให้ข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วนเพื่อให้กระบวนการรีไฟแนนซ์เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว
2. เช็กกำลังผ่อนของตัวเอง รวมรายได้ หักค่าใช้จ่ายและหนี้เดิม แล้วถามตัวเองว่าค่างวดใหม่หลังจากรีไฟแนนซ์ควรอยู่ที่เท่าไรถึงจะไม่ตึงมือ ถ้าไม่มั่นใจลองปรึกษาเจ้าหน้าที่ของแต่ละสถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการฯ เพื่อประเมินวงเงินเบื้องต้นและขอทราบยอดผ่อนชำระต่อเดือน
3. ยื่นคำขอรีไฟแนนซ์ เลือกสถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการฯ ที่อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขค่างวดเหมาะกับคุณ กรอกแบบฟอร์ม แนบเอกสารครบ จัดเวลาว่างไว้เผื่อเจ้าหน้าที่โทรสอบถามเพิ่มเติม
4. รอผลการพิจารณา สถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการฯ จะตรวจข้อมูลเครดิตและประเมินมูลค่ารถ ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงถึงไม่กี่วัน เอกสารครบ ตอบคำถามเร็ว ก็รู้ผลเร็ว
5. ปิดบัญชีเดิม เมื่อได้รับอนุมัติ วงเงินใหม่จะถูกนำไปชำระหนี้ปิดบัญชีกับสถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการฯ เก่าให้หมด (อาจมีค่าใช้จ่ายหรือดอกเบี้ยค้างตามสัญญาเดิม) จากนั้นจะได้รับเล่มทะเบียนคืน ซึ่งต้องนำไปส่งมอบให้กับสถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการฯ ใหม่
6. เริ่มผ่อนกับสถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการฯ ใหม่ ส่งค่างวดตามตารางการผ่อนชำระใหม่ ยอดผ่อนอาจน้อยลงหรือขยายระยะเวลาการผ่อนนานขึ้น และเงินสดที่เหลือกลายเป็นทุนหมุนเวียนหรือขยายกิจการ สร้างโอกาสในการลงทุน