ธุรกิจและการแข่งขันที่รุนแรงในพื้นที่ท่องเที่ยว มีคนต่างชาติจำนวนหนึ่งหันมาใช้‘นอมินี’ หรือการให้คนไทยถือหุ้นแทน เพื่อหลบเลี่ยงกฎหมายประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว สร้างความเสียเปรียบให้ผู้ประกอบการไทย และบิดเบือนโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ รัฐจึงเดินหน้าปราบปรามเข้มต่อเนื่อง ล่าสุด กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) เปิดปฏิบัติการลุยพื้นที่ อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ ตรวจค้นธุรกิจต้องสงสัย 2 จุด พบพฤติการณ์เข้าข่ายผิดกฎหมายชัดเจน
พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 20-21 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้ ม.ล.ภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีฯ นำทีมลงพื้นที่ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ตำรวจท่องเที่ยว ตรวจคนเข้าเมือง สรรพากร จัดหางานจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจค้นธุรกิจเป้าหมาย 2 แห่งในอ่าวนาง
จุดแรก คือ บริษัท ฮิลเลล เฮาส์ จำกัด พบชาวต่างชาติเป็นเจ้าของและกรรมการตัวจริง ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเป็นกิจการต้องห้ามตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 พร้อมจับกุมคนไทย 2 รายที่ทำหน้าที่นอมินีให้ชาวต่างชาติ
จุดที่สอง คือ บริษัท กระบี่ แอดไวเซอร์ จำกัด ซึ่งให้บริการรับจ้างจดทะเบียนบริษัทและดำเนินการด้านวีซ่าแก่ชาวต่างชาติ โดยพบข้อมูลที่อาจเชื่อมโยงกับกลุ่มธุรกิจอื่น เจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลหลังพบพฤติการณ์เข้าข่ายใช้ช่องว่างกฎหมายเพื่อครอบครองธุรกิจไทยโดยไม่ชอบ

อธิบดีพูนพงษ์ฯ ระบุว่า จ.กระบี่มีนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่ 4,471 ราย ในจำนวนนี้พบธุรกิจที่เข้าข่ายต้องสงสัยว่าใช้คนไทยถือหุ้นแทนชาวต่างชาติถึง 401 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่จำเป็นต้องเร่งตรวจสอบ
กรมฯ ย้ำว่า การปราบปราม ‘นอมินี-บัญชีม้า’ เป็นภารกิจสำคัญ เพื่อคุ้มครองโครงสร้างเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำในการแข่งขัน และป้องกันการครอบครองธุรกิจของชาติผ่านช่องโหว่กฎหมาย โดยจะทำงานร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ตรวจคนเข้าเมือง กรมสรรพากร กรมจัดหางาน สำนักงานที่ดิน และหน่วยงานพื้นที่ทั้งระดับจังหวัดและส่วนกลางอย่างเข้มข้นต่อไป



