ธุรกิจนมจวนพัง รัฐไม่ช่วยจริง ให้งบแต่เงินไม่มา
ธุรกิจนมเข้าขั้นวิกฤต หนี้สะสมนับพันล้านบาท รัฐอนุมัติงบกลางช่วยเหลือตั้งแต่เดือนกันยายนแต่งบไม่มา ติดขั้นตอนแบบราชการ ขณะที่คนหาดใหญ่เจอภัยพิบัติ สิ้นเนื้อประดาตัว เพราะน้ำท่วม เกษตกร ที่ทำธุรกิจ เลี้ยงโคนม กำลังเจอปัญหา หนี้ เพราะน้ำนมท่วม นมที่ผลิตได้ขายไม่หมด สหกรณ์ คนกลางที่รับซื้อเป็นเดอะแบกภาระหนี้จนติดหนี้เกษตรกรใกล้จะแตะพันล้านบาท
สิ่งที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมผลิตนม คือ น้ำนมดิบเหลือขายไม่หมดน้ำนมดิบที่ผลิตออกมาทุกวันกว่า 3,000 ตัน มีการรับซื้อจากผู้ประกอบการ 2,800 ต้น เหลืออีก 200 ตัน ที่เหลืออยู่ คือ ของร้อน เพราะเมื่อเหลือขายไม่ได้ ก็ต้องทิ้ง นี่คือสิ่งที่สหกรณ์ ทั้งใหญ่และเล็ก ต้องรับภาระ นำมาซึ่งหนี้ (ค่ารับซื้อน้ำนมดิบ) ที่พอกพูน
ปลายรัฐบาลที่ผ่านมา ค.ร.ม. อนุมัติงบกลางเพื่อช่วยซื้อนมโรงเรียนที่ค้างสต๊อกที่มีประมาณร้อยล้านกล่อง (ราคากล่องละ 8 บาท) ส่วนองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กู้เงิน 600 ล้านบาท จากกองทุนสงเคราะห์การเกษตร เพื่อชำระหนี้ค่าน้ำนมดิบที่ค้างอยู่ ที่มีประมาณ 800-900 ล้านบาท ความจริงเงินน่าจะถึงมือเกษตรกรไม่เกิน 1 เดือน แต่มาล่าช้า เพราะขั้นตอน คือ ให้ ค.ร.ม.ชุดใหม่ เห็นชอบเรื่องนี้อีกครั้ง ยังไม่บรรจุเข้าค.ร.ม. เมื่อไม่บรรจุ นายกรัฐมนตรี ก็ลงนามไม่ได้ เมื่อไม่ลงนาม เงินก็ยังไม่ออก ความลำบากของเกษตรกร สหกรณ์ ก็ต้องรอต่อไป
การเบิกเงิน 800 ล้านบาท ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย เริ่มจากมติเห็นชอบจาก ค.ร.ม. กระทรวงเกษตรฯ จะส่งเรื่องให้สำนักงานเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี (สลค.)ส่งเรื่องไปขอความเห็น 8 หน่วยงาน คือ กระทรวงการคลัง สภาพัฒน์ อย. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ และกระทรวงเกษตร ฯ เมื่อได้คำตอบ กระทรวงเกษตรฯ จะส่งต่อให้ อ.ส.ค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมเบิกจ่าย โอนเงินให้ อ.ส.ค. เอาไปช่วยเกษตรกรจบ
กติกาของขั้นตอนนี้คือ ถ้ามีหน่วยงานไม่ตอบ ขั้นตอนจะค้างทันทีปรากฎว่า กระทรวงมหาดไทย กับ อย.ยังไม่ตอบทำให้ สลค. ไมj สามารถออกหนังสืออนุมัติได้ เวลาผ่านมาจะ 3 เดือนอ.ส.ค. จึงรวมตัวเกษตรกร สหกรณ์ และผู้ได้รับความเดือดร้อน ร้องขอให้ รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้โดยด่วน สิ่งที่ร้องขอกับรัฐบาล คือ “ขอให้ดำเนินการให้เร็วหน่อย” เรื่อง นม น่าจะราบรื่น ไร้รอยต่อ ไม่เกี่ยวเปลี่ยนแปลงรัฐเพราะรัฐมนตรี มาจากพรรคเดิม ตั้งข้อสังเกต หน่วยงานที่ไม่ตอบยืนยันวงเงินช่วยเหลือคือ มหาดไทย เจ้ากระทรวง คือคนเดียวกับที่มีอำนาจ พิจารณา บรรจุเข้าวาระ เข้า ค.ร.ม. คำถามจึงไปที่บุคคลคนเดียวกัน
ส่วนอนาคตเพื่อแก้ไขปัญหา คือพยายามขายน้ำนมดิบที่เหลือ 200 ตัน อ.ส.ค. โดยวัชรี วรรณศรี ผู้อำนวยการ อ.ส.ค. จะนัด ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียงในอุตสาหกรรมนมทั้งหมด หน่วยราชการ ผู้ประกอบการ สหกรณ์ เกษตร ศูนย์รับนมเอกชน มีหน้าที่ซื้อนมจากเกษตรกรมาแปรรูป ทำยังไงให้มีการซื้อน้ำดมดิบที่เหลือ นอกจากแนวทางที่เป็นไปได้หากในอนาคตจะมีโครงการพิเศษภาครัฐหาทางใช้นมดิบในประเทศให้หมด
