บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สานต่อภารกิจ ‘ครัวของโลก’ (Kitchen of the World) มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน และลดปริมาณขยะอาหารพร้อมร่วมตระหนักถึงความสำคัญของ ‘วันอาหารโลก’ ซึ่งตรงกับวันที่ 16 ตุลาคมของทุกปี โดยปีนี้องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO กำหนดธีม “Hand in Hand for Better Foods and a Better Future” เชิญชวนให้ทุกภาคส่วนร่วมกันยกระดับระบบอาหารที่ดีต่อโลกและทุกคน
ภายใต้แนวคิดดังกล่าว ซีพีเอฟได้ขับเคลื่อนโครงการ “Circular Meal มื้อนี้เปลี่ยนโลก” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ร่วมกับ มูลนิธิสโกลาร์ส ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS) เพื่อบริหารจัดการ ‘อาหารส่วนเกิน’ ที่ยังมีคุณภาพ ปลอดภัย กระจายไปยังชุมชนต่างๆ และกลุ่มเปราะบาง

อาหารที่ส่งมอบมีทั้งอาหารพร้อมปรุงและวัตถุดิบ โดยมีรถจากมูลนิธิ SOS เข้ารับอาหารจากศูนย์กระจายสินค้าบางน้ำเปรี้ยว มหาชัย ฯลฯ ซึ่งยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในช่วงเวลาปลอดภัย โดยที่ทีมจากมูลนิธิ SOS ดูแลด้านการขนส่งอย่างมีระบบ เพื่อให้ทุกมื้อที่ถึงมือผู้บริโภค “ปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการ และไม่สูญเปล่า”
นับตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2564 ซีพีเอฟและมูลนิธิ SOS ได้ส่งมอบอาหารแล้วกว่า 292,000 มื้อ ช่วยลดการเกิดขยะอาหารกว่า 69 ตัน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 176 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO₂e) ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อน “วงจรอาหารหมุนเวียน (Circular Food System)” และสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ซีพีเอฟได้จัดกิจกรรมมอบอาหารภายใต้โครงการ “Circular Meal มื้อนี้เปลี่ยนโลก” ที่ ชุมชนแผ่นดินทองคอยรุสดีน แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ โดยมีชุมชนในพื้นที่และชุมชนใกล้เคียงเข้ารับวัตถุดิบ อาหารปรุงสุกจากผลิตภัณฑ์ของซีพีเอฟอย่างเป็นอีกหนึ่งความต่อเนื่องของพันธกิจ “แบ่งปันอาหารที่ดีให้ทุกคนเข้าถึงได้”

เชิดพันธุ์ เตี่ยไพบูลย์ ประธานชุมชนแผ่นดินทองคอยรุสดีน เผย สำหรับชาวชุมชนของพวกเรา มื้อนี้มีประโยชน์ เป็นหนึ่งมื้อที่ช่วยให้เราไปต่อ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ลดค่าใช้จ่ายของชุมชน
“ที่มีค่ามากกว่านั้น คือความรู้สึกของการได้ช่วยเหลือกัน มาทำอาหาร มาร่วมแจกกัน มันคือ ‘ความหวัง’ ที่เรามีให้กันในวันที่เศรษฐกิจยากลำบาก และผมเชื่อว่า ความหวังแบบนี้จะช่วยให้พวกเรา และประเทศนี้ เดินต่อไปได้”
— เชิดพันธุ์ กล่าว

ประธานชุมชนแผ่นดินทองคอยรุสดีน ยังให้ความเชื่อมั่น กับอาหารที่ได้รับว่า แม้จะเป็น ‘อาหารส่วนเกิน’ ที่มีวันหมดอายุตั้งแต่ 2-3 เดือน แต่ก็มั่นใจได้ว่า เป็นอาหารที่ปลอดภัย โดยตลอดระยะเวลาที่ทำงานร่วมกับมูลนิธิ SOS ได้รับการเทรนด์เรื่องการจัดการอาหารอย่างรอบคอบมาก อาหารบางส่วนแม้ใกล้หมดอายุ แต่ผ่านการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า อยู่ในช่วงเวลาปลอดภัย และที่สำคัญบางอย่างเรานำมาทำเป็นอาหารปรุงสุกก่อนแจกจ่าย ทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารทุกมื้อที่ CPF นำมาแบ่งปันนั้น ทั้งดี ปลอดภัย และเปี่ยมด้วยน้ำใจของผู้ให้

นอกจากเป้าหมายมุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซีพีเอฟยึดมั่นในพันธกิจ “ผลิตอาหารดีต่อกาย ดีต่อใจ และดีต่อโลก” สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยเฉพาะ SDG เป้าหมายที่ 2 (ยุติความหิวโหย) และ เป้าหมายที่ 12 (การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน) เพื่อสร้างระบบอาหารที่มั่นคง ครอบคลุม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม



