ท่ามกลางวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ขยะล้นเมือง ห่วงโซ่อุปทานเสี่ยงสะดุด และความเหลื่อมล้ำด้านโอกาสที่กว้างขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โลกธุรกิจกำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่ให้รีเซ็ตวิธีคิด สร้างระบบที่โปร่งใส วัดผลได้ และรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่าเดิม เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จึงเปิดเวที “CP Sustainability Synergy Forum 2025” เพื่อรวมพลังทั้งองค์กร ปรับโครงสร้างงานยั่งยืนครั้งสำคัญ และประกาศยกระดับสำนักบริหารความยั่งยืนฯ (SGC) สู่บทบาทใหม่ในฐานะ “CP Sustainability Center of Excellence (COE)” ศูนย์กลางมาตรฐานความยั่งยืนครบมิติที่เชื่อมทุกกลุ่มธุรกิจเข้าหากันภายใต้นโยบาย One CP
งานนี้นับเป็นหมุดหมายสำคัญในการขับเคลื่อน ‘3 Big Goals’ ของเครือฯ ได้แก่
(1) Net Zero 2050
(2) Zero Waste to Landfill 2030
(3) Education for Equality
โดยมีการนำเสนอ 3 กรณีศึกษาจริงจาก 3 บริษัทในเครือ เพื่อสะท้อนการลงมือทำที่เป็นรูปธรรมในทุกระดับขององค์กร
ยกระดับงานยั่งยืนสู่ “Center of Excellence” หนึ่งเดียวเพื่อทั้งเครือ
เวทีดังกล่าวจัดโดยสำนัก SGC ร่วมกับผู้บริหารระดับสูง นำโดย ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสายความยั่งยืน ธรรมาภิบาล ความปลอดภัย และความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยประกาศยกระดับระบบงานความยั่งยืนทั้งองค์กรให้เป็น “CP Sustainability COE” ที่ทำหน้าที่เชื่อมข้อมูล มาตรฐาน เครื่องมือ การบริหารจัดการ ESG และกลไกด้านคาร์บอน–ขยะ–ซัพพลายเชน เพื่อสร้างมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้งเครือ ตามวิสัยทัศน์ของ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ย้ำเสมอว่า “ความยั่งยืนต้องเป็นเนื้อเดียวกับธุรกิจ” และต้องขยายผลไปสู่ประเทศและสังคม ตามค่านิยม “3 ประโยชน์”
ดร.ธีระพล ยังชี้ โลกกำลังเผชิญแรงกดดันใหม่ทั้งจากโลกร้อน กฎเกณฑ์สากล และความเสี่ยงไซเบอร์ ทำให้องค์กรต้องก้าวไปสู่ระบบความยั่งยืนที่ ตรวจสอบได้ วัดผลได้ และมีมาตรฐานเดียวกัน ซีพีจึงสร้าง COE เพื่อรวมความเชี่ยวชาญใน 8 มิติสำคัญ ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ยั่งยืน, การรับรองมาตรฐาน ESG, การบริหารคาร์บอนเครดิต, กลไก Green Finance, ระบบ Waste-to-Value, Brand Licensing ไปจนถึงระบบข้อมูลดิจิทัลและการยกระดับซัพพลายเออร์ ให้เครือฯ มีมาตรฐานเดียวกัน มีการปรับตัวอย่างเป็นระบบ และแข่งขันได้ในเวทีสากล
ด้านธรรมาภิบาล-Compliance-ความปลอดภัย ผู้บริหารหลายท่านย้ำว่า การเติบโตอย่างยั่งยืนต้องตั้งอยู่บนโครงสร้างกำกับดูแลที่เข้มแข็ง บุคลากรเข้าใจนโยบายเดียวกัน ใช้เครื่องมือเดียวกัน และมีวัฒนธรรมความโปร่งใสที่ทั้งองค์กรยึดถือร่วมกัน
หน่วยงานด้านความร่วมมือระหว่างประเทศยังชี้ว่า บทบาทของซีพีต้องเท่าทันมาตรฐานโลก เพราะภูมิรัฐศาสตร์ ภัยสภาพภูมิอากาศ และกฎเกณฑ์ AI ล้วนส่งผลต่อภาพลักษณ์ การลงทุน และห่วงโซ่อุปทาน การมี COE จึงไม่ใช่เพียง “โครงสร้างใหม่” แต่เป็น “ความจำเป็นทางยุทธศาสตร์”
3 Big Goals จากนโยบายระดับเครือ สู่การลงมือทำจริง
ช่วง ‘Call for Action’ มีการนำเสนอ 3 กรณีศึกษาจริงจาก 3 บริษัทในเครือ เพื่อสะท้อนการลงมือทำในการขับเคลื่อน 3 Big Goals ที่เป็นรูปธรรมในทุกระดับขององค์กร โดย...
1) Net Zero 2050 – กรุงเทพโปรดิ๊วส และระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพด
วรพจน์ สุรัตวิศิษฎ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) เผยถึงโครงการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) นำเสนอการพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (Traceability) ที่ช่วยลดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทาน และเพิ่มความโปร่งใสจากต้นทางถึงปลายทาง ถือเป็นก้าวสำคัญของการสร้างซัพพลายเชนที่รับผิดชอบต่อโลกร้อน
2) Zero Waste to Landfill 2030 – ซีพีแอ็กซ์ตร้า ลดขยะอาหาร–ขยะพลาสติกทั้งระบบ
ศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า ธุรกิจค้าปลีกคือ “ตัวกลางสำคัญ” ระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค ซีพีแอ็กซ์ตร้าพัฒนาระบบบริหารงานขาย–คลังสินค้า–การจัดการสินค้าหมดอายุ โดยใช้นวัตกรรมยืดอายุสินค้า AI คาดการณ์อุปสงค์ และระบบคัดแยกขยะที่เชื่อมทั้งร้านค้า–คลังสินค้า–คู่ค้า เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องฝังกลบให้เป็นศูนย์ตามเป้าหมายปี 2030
3) Education for Equality – ทรู ใช้เทคโนโลยียกระดับการศึกษาไทย
ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน หัวหน้าสายงานด้านความยั่งยืนองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ดูแล Connext ED นำเสนอความสำเร็จของ ทรูปลูกปัญญา – VLEARN – Connext ED ที่วันนี้เข้าไปสนับสนุนโรงเรียนกว่า 30,000 แห่ง ระดมทุนเพื่อชุมชนการศึกษากว่า 115 ล้านบาท พัฒนาเยาวชนด้าน ICT เกือบ 20,000 คน และตั้ง Learning Center กว่า 2,000 จุด ทั่วประเทศ เป้าหมายภายในปี 2030 คือทำให้คนไทย 36 ล้านคน เข้าถึงโอกาสการเรียนรู้ที่เท่าเทียม
ก้าวใหม่ของซีพีสู่อนาคตยั่งยืนแบบ One CP
การเปิดตัว “CP Sustainability COE” ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ทุกบริษัทในเครือเดินในมาตรฐานเดียวกัน ทั้งด้านข้อมูล การกำกับดูแล ความปลอดภัย การบริหารความเสี่ยง และนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน พร้อมผลักดันให้ซีพีเป็นองค์กรชั้นนำด้าน Sustainable Business ของประเทศและของโลก
ภายใต้บริบทการแข่งขันที่ซับซ้อน และความท้าทายของสภาพภูมิอากาศ ซีพีประกาศชัดว่างานยั่งยืนจะไม่ใช่โครงการเสริม แต่คือ “แกนกลางของการเติบโตในอนาคต” บนค่านิยม 3 ประโยชน์ คือ ประเทศ ประชาชน องค์กร ที่เครือยึดมั่นมากว่า 100 ปี
