Apple Watch เปิดใช้ฟีเจอร์วัดออกซิเจนในเลือดหลังจบข้อพิพาทสิทธิบัตร

15 ส.ค. 2568 - 04:51

  • Apple นำฟีเจอร์วัดออกซิเจนในเลือดกลับมาใน Apple Watch Series 9, 10 และ Ultra 2

  • ข้อพิพาทสิทธิบัตรกับ Masimo ทำให้หยุดขายนาฬิการุ่นใหม่ในสหรัฐฯ เมื่อมกราคม 2567

  • คำตัดสินใหม่จากศุลกากรสหรัฐฯ ช่วยให้ Apple สามารถคืนฟีเจอร์นี้ได้

Apple Watch เปิดใช้ฟีเจอร์วัดออกซิเจนในเลือดหลังจบข้อพิพาทสิทธิบัตร

Apple ประกาศเปิดใช้งานฟีเจอร์วัดระดับออกซิเจนในนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นเรือธงของบริษัท หลังจากถูกระงับการใช้งานมาหลายปีเนื่องจากข้อพิพาทด้านสิทธิบัตร บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่จะเพิ่มความสามารถนี้ให้กับ Apple Watch Series 9, Series 10 และ Ultra 2

เหตุการณ์ที่ผ่านมา

Apple ต้องปิดการใช้ฟีเจอร์วัดระดับออกซิเจนของนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นล่าสุดในสหรัฐอเมริกาชั่วคราวเมื่อเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากข้อพิพาทสิทธิบัตรกับบริษัทด้านสุขภาพ Masimo บริษัทที่มีฐานในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ (ITC) ห้ามนำเข้า Apple Watch หลายรุ่นเนื่องจากการละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด

ข้อกล่าวหาของ Masimo

Masimo อ้างว่าเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยีดังกล่าว และกล่าวหาว่า Apple ล่อลวงพนักงานของบริษัทเพื่อเข้าถึงความรู้ทางเทคนิค Apple ผลิตสินค้าส่วนใหญ่ในต่างประเทศ ทำให้ ITC มีอำนาจเหนือข้อพิพาทสิทธิบัตรนี้

รายงานระบุว่า Apple ได้ถอดเทคโนโลยีดังกล่าวออกจากนาฬิกาอัจฉริยะที่เป็นประเด็นในขณะนั้นและกลับมาจำหน่ายต่อ อย่างไรก็ตาม Apple โต้แย้งว่าการตัดสินของ ITC มีข้อผิดพลาดและได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลแพ่งของสหรัฐฯ

ฟีเจอร์สุขภาพที่แข็งแกร่ง

Apple ผลักดันฟีเจอร์ด้านฟิตเนสและสุขภาพของนาฬิกาอัจฉริยะอย่างแข็งขัน ซึ่งรวมถึงการตรวจจับการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ การหกล้ม อาการหยุดหายใจขณะหลับ และระดับเสียงที่เป็นอันตราย

การกลับมาของฟีเจอร์วัดออกซิเจนในเลือดแสดงให้เห็นว่าแม้ในโลกเทคโนโลยีที่แข่งขันสูง นวัตกรรมด้านสุขภาพยังคงเป็นสนามรบที่รุนแรงระหว่างผู้เล่นรายใหญ่ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ได้รับประโยชน์จริงคือผู้บริโภคที่จะได้รับเทคโนโลยีที่ช่วยดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์