ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า บริษัทแอปเปิลจะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐอเมริกาอีก 1 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้การลงทุนรวมในช่วง 4 ปีข้างหน้าสูงถึง 6 แสนล้านดอลลาร์ ในการประกาศที่ทำเนียบขาวร่วมกับทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล
ทรัมป์เรียกการลงทุนครั้งนี้ว่า การลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของแอปเปิลในอเมริกา พร้อมเน้นย้ำว่าบริษัทจะเพิ่มการใช้จ่ายในห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศอย่างมหาศาล รวมถึงการสร้างโรงงานผลิตกระจกสำหรับหน้าจอไอโฟนในรัฐเคนตักกี้
การขยายการผลิตในหลายรัฐ
แอปเปิลวางแผนช่วยพัฒนาและผลิตเซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ในรัฐเท็กซัส ยูทาห์ แอริโซนา และนิวยอร์ก คุกเปิดเผยว่าในปีนี้เพียงปีเดียว ผู้ผลิตชาวอเมริกันกำลังผลิตชิป 1.9 หมื่นล้านชิ้นให้แอปเปิลใน 24 โรงงานทั่ว 12 รัฐ
การลงทุนนี้เป็นการต่อยอดจากแผนในปี 2021 ที่แอปเปิลประกาศจะลงทุน 4.3 แสนล้านดอลลาร์และเพิ่มงาน 20,000 ตำแหน่งใน 5 ปี รวมถึงการขยายแผนในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะใช้จ่ายกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์และจ้างงาน 20,000 คน
ยุทธศาสตร์ภาษีของทรัมป์
ทรัมป์ย้ำว่าจะเก็บภาษีพิเศษ 100% กับเซมิคอนดักเตอร์นำเข้า ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของไต้หวัน เกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม บริษัท TSMC ยักษ์ใหญ่ผลิตชิปจากไต้หวันจะได้รับการยกเว้นจากภาษีดังกล่าว เนื่องจากมีโรงงานในสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีระบุว่าหากบริษัทเทคโนโลยีมุ่งมั่นผลิตสินค้าในสหรัฐฯจะไม่มีค่าใช้จ่าย หมายถึงการยกเว้นภาษี คุกชี้แจงเพิ่มเติมว่าแม้ชิ้นส่วนไอโฟนจำนวนมากจะผลิตในสหรัฐฯ แต่การประกอบสำเร็จรูปยังคงทำในต่างประเทศ
แอปเปิลรายงานกำไรไตรมาสล่าสุดที่ 2.34 หมื่นล้านดอลลาร์ในปลายเดือนกรกฎาคม เกินคาดการณ์แม้จะเผชิญต้นทุนสูงขึ้นจากนโยบายภาษีของทรัมป์ การเคลื่อนไหวนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอเมริกาหรือไม่