ตลอดช่วงกว่า 7 ปีที่ผ่านมา บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด (“คิงส์เกต”) ผู้ถือหุ้นของ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) (“อัครา”) และรัฐบาลไทย มีข้อพิพาทเรื่องการดำเนินกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ซึ่งนำไปสู่การเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560
ล่าสุด ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติกระบวนการอนุญาโตตุลาการดังกล่าวอย่างสันติ โดยเห็นตรงกันว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เป็นการปิดฉากข้อพิพาทที่ยืดเยื้อและเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายสามารถก้าวเดินต่อไปเพื่อประโยชน์ร่วมกัน
สานต่อความร่วมมือ มุ่งผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางทองคำ
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 ผู้บริหารระดับสูงของคิงส์เกต นำโดย นายรอส สมิธ-เคิร์ก ประธานคณะกรรมการบริหาร และ นายเจมี่ กิ๊บสัน กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายความยั่งยืนองค์กร บริษัท อัครา รีซอร์สเซสฯ ได้เข้าพบ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อยืนยันการยุติข้อพิพาทและหารือถึงโอกาสในการทำงานร่วมกัน

อัคราพร้อมร่วมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำและเงินในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากไทยมีศักยภาพทั้งด้านทรัพยากรและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง คิงส์เกตเชื่อมั่นว่าเหมืองแร่ทองคำชาตรีจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยผ่านการสร้างงาน การกระจายรายได้ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบต่อเนื่องไปอีกนาน

อัครา ชี้บทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาชุมชน
นับตั้งแต่การกลับมาดำเนินงานของเหมืองทองคำชาตรีในเดือนมีนาคม 2566 คิงส์เกตได้มีการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เช่น การปรับปรุงอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐาน การสำรวจแหล่งแร่เพิ่มเติม และการพัฒนาบุคลากร
ทั้งนี้ บริษัทฯ สร้างเม็ดเงินมหาศาล โดยได้ชำระค่าภาคหลวงแร่ไปแล้วรวมกว่า 2,000 ล้านบาท และสมทบเงินเข้ากองทุนตามนโยบายและยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรแร่มากกว่า 450 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังกระจายรายได้ในท้องถิ่น โดยสนับสนุนเศรษฐกิจในพื้นที่ผ่านการจ้างงานทั้งทางตรงและผ่านผู้รับเหมาท้องถิ่น ซึ่งสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนปีละหลายพันล้านบาทเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทย
อัครา ยืนยัน ทำเหมืองตามมาตรฐานสากล-ใส่ใจชุมชน
เชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายความยั่งยืนขององค์กร บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า บริษัทฯ ปฏิบัติตามกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด โดยการดำเนินงานของเหมืองแร่ทองคำชาตรีเป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล

เพื่อสร้างความเชื่อมั่น บริษัทฯ ได้จัดให้มีการตรวจสุขภาพประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และยังชี้ให้เห็นว่าพนักงานในพื้นที่กว่า 85% ที่ทำงานกับเหมืองมานาน ยืนยันถึงความปลอดภัยในการดำเนินงาน
“พนักงานของเราประมาณ 85% เป็นคนในพื้นที่ หากการดำเนินงานของเหมืองไม่ปลอดภัยจริง คงไม่มีใครยอมเสี่ยงชีวิต ทั้งของตัวเองและคนในครอบครัวเพื่อแลกกับค่าตอบแทนจากการทำงานที่นี่ ความไว้วางใจจากชุมชนและพนักงานคือเครื่องยืนยันสำคัญ”
— เชิดศักดิ์ กล่าว
เชิดศักดิ์ ยังยกตัวอย่างว่า เงินจากกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบเหมืองแร่ที่อัครานำส่ง มีส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องในชุมชนอย่างกว้างขวาง ล่าสุดคือการนำไปใช้ในการติดตั้งไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและเสริมความปลอดภัยในการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
บริษัทฯ ขอขอบคุณรัฐบาล ผู้นำชุมชน และประชาชนรอบเหมือง สำหรับความเชื่อมั่นและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับชุมชนโดยรอบ


